Conncet with us :
xeeren.xr@gmail.com l 084 - 232 - 9445

โปรลด 15% ทุก แพ็กเกจ

วัน
ชม.
นาที
วินาที
ขอบพระคุณลูกค้าที่ใช้บริการเรา Pro นี้ ได้สิ้นสุดแล้ว
MENU

บทความ.

เว็บไซต์ vs โซเชี่ยวมีเดีย

เหตุผลที่การมีเว็บไซต์เป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่คุ้มค่ากว่า

ในยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจต่างแข่งขันกันบนโลกออนไลน์ คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ธุรกิจจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ด้วยหรือไม่ ในเมื่อมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียให้ใช้ฟรีๆ?” คำตอบคือ ยังจำเป็น และมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเว็บไซต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าร้านออนไลน์ แต่เป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่มีมูลค่าและให้ผลตอบแทนในระยะยาว มาทำความเข้าใจว่าทำไมการมีเว็บไซต์จึงคุ้มค่ากว่าการใช้เพียงโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว

ความแตกต่างระหว่างเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย

ก่อนที่จะเข้าใจว่าทำไมเว็บไซต์ถึงสำคัญ มาเข้าใจความแตกต่างระหว่างเว็บไซต์กับโซเชียลมีเดียกันก่อน

โซเชียลมีเดีย คือแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ มีความเคลื่อนไหวแบบ Real-time เช่น Facebook, Instagram และ Twitter ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการติดต่อสื่อสาร

เว็บไซต์ คือแหล่งรวบรวมข้อมูลดิจิทัลต่างๆ เช่น รูปภาพ บทความ วิดีโอ หรือสาระความรู้ที่นำเสนอผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดยปกติเว็บไซต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ใช้โดยตรง แต่จะมีช่องทางให้ฝากข้อความถึงผู้ดูแลเว็บไซต์

ข้อดีของโซเชียลมีเดีย

  • ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสร้างบัญชี

  • สื่อสารได้รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน

  • สร้างแบรนด์ได้อย่างชัดเจนผ่านเนื้อหาที่คุณสร้างเอง

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก โดยเฉพาะเมื่อทำโฆษณา

  • ติดตามและเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้ง่าย

ข้อดีของเว็บไซต์

1. เว็บไซต์คือบ้านและทรัพย์สินที่คุณเป็นเจ้าของ 100%

การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนคุณมีบ้านเป็นของตัวเอง คุณสามารถกำหนดทุกอย่างได้ตามใจต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การวางโครงสร้าง หรือการนำเสนอเนื้อหา โดยที่ไม่มีข้อจำกัดหรือกฎเกณฑ์เหมือนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

“เว็บไซต์เป็นสินทรัพย์บนโลกออนไลน์ที่เราสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ 100%” นี่คือข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์มีมูลค่ามากกว่าโซเชียลมีเดีย เพราะคุณไม่ต้องกังวลว่าแพลตฟอร์มจะปิดตัวหรือเปลี่ยนกฎเกณฑ์โดยไม่แจ้งให้ทราบ

2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

ธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองย่อมน่าเชื่อถือกว่าธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหน้าร้านเพียงอย่างเดียว การมีเว็บไซต์ที่ออกแบบอย่างมืออาชีพและให้ข้อมูลครบถ้วน ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการแสดงตัวตนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า การมีเว็บไซต์ยังสามารถยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอสัญลักษณ์ DBD มารองรับที่หน้าเว็บได้อีกด้วย

3. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า

เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ร้านหรือออฟฟิศ เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าและบริการได้

นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเป็นช่องทางที่เปิดให้ลูกค้าสามารถทำการซื้อขายสินค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะธุรกิจ E-Commerce ที่สามารถเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมาก

4. ไม่ต้องเสียผลประโยชน์ให้แพลตฟอร์มอื่น

หากขายบนแพลตฟอร์มอื่น คุณอาจจะต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้าให้กับแพลตฟอร์มนั้นๆ แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง คุณไม่ต้องแบ่งผลกำไรให้กับใคร สามารถทำกำไรจากการขายได้แบบเต็ม 100%

นอกจากนี้ คุณยังสามารถคิดกลยุทธ์หรือทำโปรโมชั่นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนปรับค่าคอมมิชชั่น หรือลดการมองเห็นสินค้าถ้าหากไม่โฆษณาบนแพลตฟอร์ม

5. ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน SEO

การมีเว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและสามารถวัดผลได้ชัดเจน

การทำบล็อกโปรโมตแบรนด์ด้วย SEO จะช่วยให้แบรนด์ของคุณติดอันดับการค้นหาบน Google และเมื่อผู้คนค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง โอกาสที่พวกเขาจะพบเจอเว็บไซต์ของคุณก็มีมากขึ้น

6. ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

เมื่อเทียบกับการเปิดร้านค้าหรือสำนักงาน เว็บไซต์ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าพนักงาน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ ต้นทุนในการสร้างและดูแลเว็บไซต์ต่ำกว่าการเช่าร้านในห้างดัง หรือการสร้างสำนักงานออฟฟิศบนตึกสูง

นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังสามารถทำงานแทนคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขายของแทนคุณ นำเสนอสินค้าและบริการ รวมถึงรับเรื่องลูกค้าแทนคุณได้ทั่วโลก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่ม

7. เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจในระยะยาว

เว็บไซต์ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางการตลาด แต่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถเพิ่มมูลค่าได้เรื่อยๆ มีกรณีศึกษาของผู้ประกอบการที่สร้างเว็บไซต์จนมีมูลค่าแตะ 7 หลักภายใน 2 ปีแรก และมีคนสนใจขอซื้อในราคา 6 หลัก

นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการยื่นกู้หรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ เช่น การยื่นกู้รถยนต์ แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์มีมูลค่าเป็นสินทรัพย์จริงๆ

8. รวบรวมข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น

เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เช่น การเก็บข้อมูลผ่านฟอร์มการสมัครสมาชิก หรือการติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรม เช่น Google Analytics

ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนการตลาดและพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้เว็บไซต์ร่วมกับโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ

ในความเป็นจริง การมีทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล เพราะทั้งสองช่องทางสามารถเสริมกันได้อย่างลงตัว

การใช้โซเชียลมีเดียดึงคนเข้าเว็บไซต์

โซเชียลมีเดียสามารถสร้าง Traffic ไปยังเว็บไซต์ของธุรกิจคุณได้ดี คุณสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมทเนื้อหาบนเว็บไซต์ แชร์ลิงก์บทความ หรือแนะนำโปรโมชั่นพิเศษที่มีเฉพาะบนเว็บไซต์ เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

การใช้เว็บไซต์เก็บข้อมูลสำคัญ

เว็บไซต์เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลสำคัญของธุรกิจ เช่น ข้อมูลสินค้า บริการ ข้อมูลติดต่อ หรือบทความให้ความรู้ เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูลเชิงลึก พวกเขาสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลที่ครบถ้วนกว่าที่นำเสนอบนโซเชียลมีเดีย

สรุป: ทำไมธุรกิจยุคใหม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์

แม้ว่าโลกออนไลน์จะมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากมายให้เลือกใช้ แต่เว็บไซต์ยังคงเป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่มีคุณค่าและคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมาก เพราะ:

  1. คุณเป็นเจ้าของ 100% ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายของแพลตฟอร์ม

  2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในระยะยาว

  3. เพิ่มโอกาสในการขายและสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น

  4. เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถเพิ่มมูลค่าได้เรื่อยๆ

  5. รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสามารถต่อยอดไปยังช่องทางอื่นๆ ได้

“พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้บริโภคยุคใหม่ใช้เวลาออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ การค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องปกติ การไม่มีเว็บไซต์อาจทำให้ธุรกิจเสียโอกาสทางการตลาด”

ดังนั้น การลงทุนสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เปรียบเสมือนการซื้อบ้านเป็นของตัวเองแทนการเช่า ที่แม้จะมีค่าใช้จ่ายในตอนเริ่มต้น แต่จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกออนไลน์

บทความ ที่คล้ายกัน